ทุกขนาดที่ผลิตในรุ่น HMS5 และ HMSA 10 สามารถระบุเป็นเนื้อยาง Viton (Fluoro Rubber) พร้อมสปริงด้านในเป็นสเตนเลส (Stainless) โดยที่ชื่อต่อท้ายจะระบุอักษร V ภาวะการใช้งาน การทนอุณหภูมิ สำหรับรุ่น HMS5 RG และ HMSA 10 RG ซึ่งเป็นยางไนไตรล์ (Nitrile) ถูกออกแบบให้ทำงานร่วมกับสารหล่อลื่นประเภทน้ำัมันและจาระบี ที่อุณหภูมิ - 40 ถึง - 100 องศา สำหรับการใช้งานต่อเนื่อง และใช้งานได้ถึง 120 องศาเซลเซียสสำหรับการใช้งานระยะสั้น สำหรับรุ่น HMS5 V และ HMSA 10 V ซึ่งเป็นยางไวตัน (Viton) ถูกออกแบบให้ใช้ที่อุณหภูมิ - 40 ถึง - 200 องศา ความเร็วหน้าสัมผัส ใช้ได้ที่ความเร็วสูงสุด 14 เมตร/วินาที (2,755 ฟุต/นาที) การทนแรงดัน ใช้ได้ที่แรงดันสูงสุด 0.03 Mpa ( 5 psi ) |
คุณสมบัติหลัก |
|
ซีลยางเมตริกรุ่น HMS5 และ HMSA10 ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับ ISO 6194 และ DIN 3760 เพื่อใช้ในงานอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น เกียร์บ๊อกซ์ โดยขนาดที่ผลิตครอบคลุมตั้งแต่เพลา 6 ถึง 250 มิลลิเมตร ซึ่งมีคุณสมบัติดังนี้ |
|
เนื้อยางชนิดใหม่ที่ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น |
|
เพิ่มประสิทธิภาพการปั๊มน้ำมันด้วยสปริงและปลายของขอบซีลที่ถูกผลิตให้มีความเสมอกันตลอดทั้งวง |
|
ขอบซีลถูกออกแบบให้มีมุมโค้งเพื่อให้ขอบซีลให้ตัวได้หากมีการเยื้องศูนย์ |
|
ลายนูนที่ขอบนอกช่วยให้ซีลยึดติดกับผนังเครื่องจักรได้ดีขึ้น |
|
ขอบกันฝุ่น (Secondary Lips) สำหรับรุ่น HMSA 10 ถูกออกแบบให้มีพิกัดรัดเพลาเป็นศูนย์เพื่อลดการสึกหรอของเพลาและลดอุณหภูมิรอบแกนเพลา |
|
เนื้อยางที่ใช้ทำซีล |
|
เป็นเนื้อยางชนิด อไครโลไนไตรล์ - บิวตะไดอิน (Acrylonitrile - Butadiene) ความแข็งอยู่ที่ 75 Shore A รหัสวัสดุ SKF NBR 3243 โดยชื่อต่อท้ายจะระบุตัวอักษรย่อว่า RG ยางไนไตรล์รุ่นใหม่ของ SKF นี้ เป็นผลมาจากประสบการณ์อันยาวนานและทีมงานวิจัยพัฒนาของ SKF ซึ่งยางชนิดนี้มีจุดเด่นคือ |
|
มีความทนทานต่อการเสื่อมสภาพ |
|
ใช้งานร่วมกับน้ำมันสังเคราะห์ได้ดีมาก |
|
มีความสามารถในการปั๊มน้ำมันได้ดีมาก |
|
มีความทนทานต่อการขัดสีได้ดี |
|
เนื้อยางมีสีเทา |
|
ความสามารถในการปั๊มน้ำมันถูกวัดโดยช่วงเวลา เทียบกับปริมาณน้ำมันที่ปั๊มกลับ ยิ่งใช้เวลาน้อยเท่าใด ประสิทธิภาพก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น โครงสร้างระดับจุลภาคของยาง SKF NBR 3243 ได้รับการทดลองโดยทีมงานวิจัยของ SKF ผลลัพธ์ที่ได้แสดงในแผนภูมิ 1 และ ตาราง 1 |