ยืดอายุการทำงานของตลับลูกปืน |
เราสามารถคำนวณอายุการใช้งานของตลับลูกปืนแต่ละตลับได้ อย่างไรก็ตาม การค้นคว้าวิจัยแสดงให้เห็นว่า ไม่ใช่ว่าตลับลูกปืนทุกตัวที่จะมีอายุการใช้งานได้สูงตามการคำนวณนั้น ขั้นตอนที่สำคัญต่าง ๆ ในแนวคิดวงจรชิวิตตลับลูกปืน ล้วนแต่ส่งผลกระทบต่ออายุการใช้งานตลับลูกปืน ขั้นตอนที่สำคัญเหล่านี้ได้แก่ การติดตั้งและหล่อลื่น ตั้งศูนย์แนวเติมสารหล่อลื่น ตรวจสอบสภาพการทำงานขั้นพื้นฐานและถอดตลับลูกปืนขั้นตอนเหล่านี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้ตลับลูกปืนมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด ด้วยการปฏิบัติงานบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีและใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับงานท่านจะสามารถยืดอายุการใช้งานของตลับลูกปืนและทำให้กำลังการผลิตและประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มมากขึ้น |
การติดตั้งและหล่อลื่น |
การติดตั้งคือหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในวงจรชิวิตตลับลูกปืน ถ้าตลับลูกปืนไม่ได้รับการติดตั้งอย่างเหมาะสม อายุการใช้งานของตลับลูกปืนจะสั้นลง การหล่อลื่นก็เป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนการติดตั้ง การเลือกใช้จาระบีที่เหมาะสม ด้วยจำนวนและวิธีเติมที่ถูกต้องทำให้ตลับลูกปืนมีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด เครื่องมือติดตั้งประกอบด้วยอุปกรณ์ตอกใส่ เครื่องทำความร้อน และอุปกรณ์ไฮโดรลิค การหล่อลื่นประกอบด้วยจาระบี อุปกรณ์เติมแบบแมนนวลและอัตโนมัติ |
การตั้งศูนย์แนว |
หลังจากติดตั้งตลับลูกปืนเข้ากับเครื่องจักรแล้ว เช่น มอเตอร์ขับปั๊ม เครื่องจักรนั้นจะต้องได้รับการตั้งศูนย์แนว ถ้าเครื่องจักรไม่ได้แนวที่เหมาะสม จะทำให้ตลับลูกปืนได้รับแรงกระทำ เกิดความเสียดทาน และการสั่นสะเทือนมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเร่งให้ตลับลูกปืนเกิดความล้า และอายุการใช้งานลดลงซึ่งก็รวมไปถึงชิ้นส่วนอื่น ๆ ด้วย อุปกรณ์ในขั้นตอนนี้ได้แก่ อุปกรณ์ตั้งศูนย์เพลา อุปกรณ์ตั้งแนวสายพาน และแผ่นรองฐาน |
การเติมสารหล่อลื่น |
ดูรายละเอียดและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้ในขั้นตอนการติดตั้ง |
ตรวจสอบสภาพการทำงาน |
ในขณะทำงาน การตรวจสอบสภาพตลับลูกปืนเป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ ปัจจัยที่ต้องตรวจสอบเช่น อุณหภูมิ ความสั่นสะเทือนและการวัดระดับเสียง การตรวจสอบสิ่งเหล่านี้เป็นประจำ ทำให้สามารถป้องกันปัญหาที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้และช่วยป้องกันความเสียหายที่ไม่คาดคิด เครื่องมือในขั้นตอนนี้ ได้แก่ เครื่องมือวัด อุณหภูมิ เสียง ความเร็ว และความสั่นสะเทือน |
การถอดตลับลูกปืน |
เมื่อถึงจุดหนึ่ง ตลับลูกปืนจะถึงขีดจำกัดของอายุใช้งานและต้องถูกเปลี่ยน ถึงแม้ว่าตลับลูกปืนนั้นจะไม่ถูกนำกลับมาใช้งานใหม่ที่นำมาเปลี่ยนสั้นลง ข้อสำคัญแรก การใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชิ้นส่วนอื่น เช่น เพลาและตัวเสื้อ ซึ่งจะต้องนำมาใช้งานต่อไป สิ่งสำคัญอีกสิ่งคือ เทคนิคการถอดตลับลูกปืนที่ไม่ถูกต้องจะเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน เครื่องมือถอดประกอบด้วยเครื่องมือถอดทางกล เครื่องทำความร้อนและอุปกรณ์ไฮดรอลิค |
การติดตั้ง |
ประมาณ 16% ของตลับลูกปืนที่เสียหายก่อนกำหนด มีสาเหตุมาจากการติดตั้งที่ผิดวิธี งานในแต่ละแบบอาจจะมีวิธีการติดตั้งที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพเฉพาะของตัวเอง เช่น วิธีการทางกลความร้อนหรือไฮดรอลิคการเลือกใช้เทคนิคการติดตั้งที่เหมาะสมกับงานช่วยยืดอายุการใช้งานตลับลูกปืนและลดค่าใช้จ่ายที่เป็นผลมาจากการที่ตลับลูกปืนเสียหายก่อนกำหนด รวมทั้งลดโอกาสที่จะเกิดความเสียหายกับเครื่องจักรโดยรวม |
การติดตั้งตลับลูกปืนในสภาพอุณหภูมิปกติ |
โดยทั่วไป ตลับลูกปืนขนาดเล็กถึงขนาดกลางจะถูกติดตั้งในสภาพอุณหภูมิปกติ ตลับลูกปืนรูตรงจะถูกติดตั้งโดยใช้ฆ้อนและท่อยาว ซึ่งเป็นการปฏิบัติแบบดั้งเดิม การติดตั้งแบบนี้อาจจะทำให้แรงถูกส่งผ่านไปยังเม็ดลูกกลิ้งเป็นเหตุให้รางวิ่งเกิดความเสียหาย อุปกรณ์ตอกใส่ตลับลูกปืนของ SKF ช่วยป้องกันความเสียหายโดยการส่งถ่ายแรงไปยังแหวนตลับลูกปืนที่มีการสวมแน่น ในขณะที่การติดตั้งตลับลูกปืนรูเฉียบขนาดเล็กทำได้โดย การดันตลับลูกปืนด้วยแป้นเกลียวลึกขึ้นไปยงผิวสัมผัสเฉียง เช่น เพลาเรียว หรือปลอกปรับขนาด ด้วยระยะที่เหมาะสม ห้ามทำการขันอัดแป้นเกลียวด้วยการใช้ฆ้อนกับเหล็กส่ง ซึ่งอาจจะทำให้แป้นเกลียวเสียหายและเกิดเศษโลหะกระเด็นเข้าไปในตลับลูกปืน SKF มีประแจแบบต่าง ๆ มากมาย ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย ขันกวดและคลายแป้นเกลียวได้ง่าย |
การติดตั้งตลับลูกปืนด้วยการใช้ความร้อน |
การติดตั้งด้วยความร้อนเหมาะสำหรับตลับลูกปืนรูตรงทุกประเภทตั้งแต่ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ รวมถึงลูกปืนขนาดเล็กโดยปกติอุณหภูมิตลับลูกปืนประมาณ 80-90 องศา สูงกว่าอุณหภูมิของเพลา ทำให้แหวนในขนาดตัวเพียงพอสำหรับการติดตั้ง สิ่งที่สำคัญในการทำความร้อน คือ ตลับลูกปืนจะต้องร้อนอย่างทั่วถึง และได้อุณหภูมิที่แม่นยำ เนื่องจากความร้อนที่มากเกินไปจะทำลายคุณสมบัติทางโลหะ บ่อยครั้งที่มักพบการต้มตลับลูกปืนในอ่างน้ำมัน วิธีการนี้จะทำให้ตลับลูกปืนสกปรก เป็นผลให้ตลับลูกปืนเสียหายก่อนกำหนดในปัจจุบัน การใช้เครื่องทำความร้อนด้วยกระแสไฟฟ้าเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมที่สุด ซึ่งเป็นการทำความร้อนที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ มีประสิทธิภาพและปลอดภัย SKF เป็นผู้สร้างมาตรฐานในกรพัฒนาเครื่องทำความร้อนสำหรับตลับลูกปืน เครื่องทำความร้อนตลับลูกปืนของ SKF มีคุณสมบัติการทำงานมากมาย ช่วยป้องกันตลับลูกปืนเสียกายจากการทำความร้อน |
การติดตั้งตลับลูกปืนด้วยวิธีการไฮดรอลิค |
วิธีการนี้เหมาะสำหรับการติดตั้งตลับลูกปืนแบบรูเฉียง เช่น ตลับลูกปืดเม็ดโค้งสองแถวเข้ากับผิวสัมผัสเรียว วิธีการนี้มีหลักการคือ อัดให้น้ำมันขาไปแทรกอยู่ระหว่างผิวสัมผัสซึ่งทำให้แรงที่ต้องใช้ดึงตลับลูกปืนที่ต้องใช้ลดลงอย่างมาก SKF คือผู้ริเริ่มใช้เทคนิคแบบไฮดรอลิค เช่น วิธีการอัดน้ำมันของ SKF และวิธีการ Drive-up สำหรับการติดตั้งตลับลูกปืน เทคนิคนี้จะช่วยให้สามารถออกแบบการจัดวางตลับลูกปืนและทำงานติดตังได้ง่าย และถูกต้อง SKF ยังได้พัฒนาเครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การทำงานด้วยวิธีการนี้ได้ผล |
การถอดตลับลูกปืน |
||
ลดความเสี่ยงต่อความเสียหายของชิ้นส่วนต่าง ๆ และการบาดเจ็บ |
||
เมื่อทำการถอดตลับลูกปืน จะต้องระมัดระวังไม่ให้ชิ้นส่วนอื่น ๆ เสียหาย เช่น เพลาหรือตัวเสื้อ ซึ่งความเสียหายจะส่งผลให้เครื่องจักรมีประสิทธิภาพและอายุใช้งานสั้นลง บางครั้งตลับลูกปืนถูกถอดออกเพื่อซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนอย่างอื่น ตลับลูกปืนเหล่านี้มักถูกนำกลับมาใช้ใหม่ การเลือกใช้วิธีการและเครื่องมือถอดที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการลดความเสี่ยงต่อความเสียหายของตลับลูกปืน ทำให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้ใหม่ การถอดตลับลูกปืนเป็นงานที่อาจทำให้ผู้ปฏิับัติเกิดอันตรายและต้องเอาใจใส่ การเลือกวิธีการและเครื่องมือที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญในการลดโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บ วิธีการถอดตลับลูกปืนทำได้หลายวิธีได้แก่ การทางกล ความร้อน หรือไฮดรอลิค ซึ่งจะเหมาะสมกับงานในแต่ละแบบและทำให้ถอดตลับลูกปืนได้อย่างปลอดภัย ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ |
||
การถอดแบบทางกล |
||
การเลือกใช้เครื่องมือถอดตลับลูกปืนให้ถูกต้องกับงานคือสิ่งสำคัญ แต่ก็ไม่เพียงแค่ชนิดของเครื่องมือถอดเท่านั้น แต่ก็ไม่เพียงแค่ชนิดของเครื่องมือถอดเท่านั้น แรงดึงสูงสุดที่ช่วยให้การถอดทำได้อย่างปลอดภัยและง่ายก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เครื่องมือถอดที่รับแรงมากเกินไป แาจจะทำให้แขนดึงและ / หรือคานหักซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ เพลา ตลับลูกปืน รวมถึงการบาดเจ็บของผู้ปฏิบัติงาน จึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง โดยทั่วไป ควรใช้เครื่องมือดึงแบบสามขาแทนแบบสองขา ซึ่งจะช่วยให้จับยึดที่ตลับลูกปืนได้แน่นกว่า ถ้าเป็นไปได้ให้ออกแรงดึงผ่านแฟวนที่มีการสวมแน่น SKF เสนอเครื่องมือถอดแบบต่าง ๆ ที่ใช้งานง่ายทั้งเครื่องมือกลและแบบใช้งานร่วมด้วยไฮดรอลิค เหมาะสำหรับงานหลากหลายประเภท |
||
การถอดโดยใช้ความร้อน |
||
โดยทั่วไป แหวนในของตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอกจะมีการสวมแน่น ซึ่งต้องการแรงดึงสูงในงานถอด ในกรณีนี้การใช้เครื่องมือดึงอาจจะทำให้เพลาและแหวนเสียหาย รวมถึงการบาดเจ็บของผู้ปฏิบัติงาน การใช้อุปกรณ์ทำความร้อนจะช่วยให้ถอดได้ง่ายและรวดเร็ว ลดความเสียหายของเพลาและตลับลูกปืน SKF เสนออุปกรณ์ทำความร้อนแบบต่าง ๆ ได้แก่ วงแหวนอลูมิเนียม เครื่องทำความร้อนแบบปรับขนาดได้และปรับขนาดไม่ได้ สำหรับงานถอดตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอก |
||
การถอดตลับลูกปืนโดยใช้เทคนิคแบบไฮดรอลิค |
||
เทคนิคการถอดตลับลูกปืนโดยใช้เทคนิคแบบไฮดริอลิคของ SKF มักใช้ในงานถอดตลับลูกปืนขนาดใหญ่ รวมถึงชิ้นงานอื่น ๆ เทคนิคนี้จะต้องใช้ปั๊มไฮดรอลิค แป้นเกลียวไฮดรอลิค และอุปกรณ์อัดน้ำมัีน ซึ่งสร้างแรงดันน้ำมันสูงช่วยในงานถอดตลับลูกปืนและชิ้นส่วนอื่น ๆ |
||
การทำงานอย่างปลอดภัย |
||
ข้อปฏิบัติสำหรับการทำงานถอดตลับลูกปืนอย่างปลอดภัย |
||
| สวมชุดป้องกันและแว่นตาทุกครั้งที่ทำงานถอดตลับลูกปืน |
||
| เมื่อทำงานถอดตลับลูกปืนโดยใช้เครื่องมือถอดแบบแขนดึง ต้องเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับชิ้นงาน |
||
| พลาสติกนิรภัยเมื่อครอบรอบแขนดึงกับตลับลูกปืนจะช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่เกิดขึ้่น |
||
| สวมถุงมือทนความร้อนเสมอเมื่อทำงานถอดตลับลูกปืนโดยใช้ความร้อน |
||
| เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรใช้ฆ้อนตีตลับลูกปืนโดยตรง |
||
| ส่งแรงดึงไปที่แหวนที่มีการสวมแน่น |
||